ลิเวอร์พูล บุกพ่าย “จิ้งจอกสยาม” เลสเตอร์ ซิตี้ 2-0 ศึกฟุตบอล คาราบาว คัพ อังกฤษ (รอบ3) แข่งขันที่สนามคิง พาวเวอร์ สเตเดี้ยม เมื่อคืนวันอังคารที่ผ่านมา

จังหวะสำคัญในเกมส์ครึ้งแรกเป็นฝ่ายของทีมหงษ์แดงที่พับสนามบุกฝ่ายเดียว แต่ไม่สามารถจบสกอร์ลงได้แม้มีโอกาสทำประตูในหลายจังหวะ หมดครึ้งแรกยังเสมอกันอยู่ที่ 0-0 ประตู

เริ่มเกมส์ในครึ้งหลัง เจอร์เก้น คล็อปป์ เปลี่ยนแผนและส่ง “เบน วู้ดเบิร์น” ลงมาแทน “ฟิลิปเป้ คูตินโญ่” ในนาทีที่ 46 แต่กลับทำให้สามประสานในแดนหน้าของหงษ์ หมดโอกาสลุ้นประตูและยังทำให้ทีมเจ้าบ้านมีโอกาสโต้กลับ ในนาที 65 “ชินจิ โอกาซากิ” ที่ลงมาเป็นตัวสำรองซัดประตูขึ้นนำ 1-0 ก่อนที่ “อิสลาม สลิมานี่” จะมายิงประตูสุดสวยในนาที 78 จบเกมส์ทีมของ “คล็อปป์” เป็นฝ่ายปราชัยไปด้วยสกอร์ 2-0 ประตู

จากการให้สัมภาษของ คล็อปป์ กับ “สกาย สปอร์ตส์” หลังจบเกมส์

“อธิบายไม่ยาก ครึ่งแรกเราเล่นฟุตบอลที่ดีมากและควรปิดเกมได้ เรามีโอกาสจะแจ้ง มีจังหวะแปลกๆ”

“แต่ฟุตบอลเล่นกัน 90 นาทีแล้วเราก็เสียประตูในบอลจังหวะสองจากเตะมุมกับลูกทุ่มเหมือนเดิม”

“เอาตรงๆผมเบื่อการเสียประตูแบบนี้แล้ว คุณเล่นฟุตบอลโดยที่โดนยิงแบบนั้นไม่ได้หรอกนะ ถึงเลสเตอร์จะเอาตัวรอดไปได้เพราะเราไม่คมเองก็เถอะ”

“บางครั้งมันก็โอเคแต่เราควรรักษาสมาธิให้ได้จนจบเกม พวกเขายิงได้ง่ายเกิ๊น ประตูแรกที่เสียเราไม่ดันขึ้นพร้อมกัน ผมบอกเป็นพันครั้งแล้วมั้ง”

“การเสียประตูลักษณะนี้อีกแล้วในวันนี้มันไม่ใช่เรื่องดีเอาเสียเลย”

ลิเวอร์พูลเปิดฉากครึ่งหลังด้วยการถอดคูตินโญ่แล้วส่งเบน วู้ดเบิร์นลงไปซึ่งเทรนเนอร์ชาวเยอรมันกล่าวอีกว่า “เส้นที่ขีดไว้ให้เขาคือ 45 นาที มันเป็นแผนอยู่แล้วที่จะถอดเขาออกตอนพักครึ่ง”

รายชื่อ 11 ตัวจริงของทั้งสองทีม
เลสเตอร์ ซิตี้ : เบ็น ฮาเมอร์(GK), อเล็กซานดรู ปาสคานู, จอช ไนท์, อเล็คซานดาร์ ดราโกวิช, เบ็น ชิลเวลล์, อาห์เหม็ด มูซ่า, แฮมซ่า ชูดฮิวรี่, บิเซนเต้ อิบอร์ร่า, เดมาราย เกรย์, เคเลชี่ อิเฮียนาโช่, อิสลาม สลิมานี่

ลิเวอร์พูล : แดนนี่ วอร์ด(GK), จอน ฟลานาแกน, โจ โกเมซ, รักนาร์ คลาวาน, แอนดรูว์ โรเบิร์ตสัน, จอร์แดน เฮนเดอร์สัน, จอร์จินิโอ ไวจ์นัลดุม, มาร์โก กรูยิช, ฟิลิปเป้ คูตินโญ่, อเล็กซ์ อ็อกซ์เลด-แชมเบอร์เลน, โดมินิค โซลันเก้