“สิงโตน้ำเงิน” เชลซี ทีมหัวตารางพลีเมียร์ลีก เปิดบ้านรับการมาเยือนของ ปีเตอร์โบโร่ ทีมจากลีกวัน ในนัดการแข่งขันของเอฟเอคัพ รอบ 3 เมื่อคืนวันอาทิตย์ที่ 8 มกราคม ที่ผ่านมา โดย เชลซี สามารถเอาชนะอย่างขาดลอย และพาทีมเข้าสู่เอฟเอคัพรอบต่อไป แม้ในช่วง 23 นาทีสุดท้าย เชลซีต้องเหลือผู้เล่นเพียง 10 คน เมื่อ จอห์น เทอร์รี่ โดนไล่ออก แต่ปีเตอร์โบโร่ ก็ยังไม่สามารถกลับมาเอาชนะได้ จบเกมส์เชลซีเอาชนะได้อย่างขาดลอย 4-1 โดยการยิงประตูของเปโดร 2 ประตู

ครึ่งแรก

น.6 เชลซี มีโอกาสลุ้นประตูออกนำตั้งแต่ต้นเกม จากลูกเตะมุมทางด้านซ้าย วิลเลี่ยน เปิดโค้งมาที่เสาแรกให้ แกรี่ เคฮิลล์ โฉบเข้าหาบอล ได้ไขว้ด้วยขวาเปลี่ยนทางเกือบเสียบโคนเสาแรก ลุค แม็คกี ตามตะครุบ

น.8 ปีเตอร์โบโร่ สร้างโอกาสลุ้นหวาดเสียวได้บ้าง มาร์คัส แมดดิสัน เปิดบอลจากฝั่งขวาเข้าเขตโทษ บอลทะลักมาถึง ลี แองโกล โฉบเข้ามาแปจ่อในกรอบ 6 หลา แต่โดนเหลี่ยมไม่ดี บอลไปเข้ามือ เบโกวิช

น.18 เชลซี ที่มีทีเด็ดทีขาดที่เฉียบคมมากกว่า มายิงประตูขึ้นนำ 1-0 มิชี่ บาตชูอายี่ แต่งบอลสับไกเต็มข้อจากหน้าเขตโทษ บอลพุ่งแรงเข้ากรอบจน ลุค แม็คกี ต้องทุบทิ้ง แต่บอลมาเข้าทาง เปโดร โรดริเกซ แต่งบอลโยกหลบตัวประกบหนึ่งจังหวะ แล้วปั่นด้วยขวา บอลโค้งเสียบเสาไกลอย่างสวยงาม

น.30 เชลซี เกมรุกวูบวาบน่ากลัว มีโอกาสลุ้นอีกครั้ง วิลเลี่ยน ดีดบอลเข้าเขตโทษด้านขวาให้ มิชี่ บาตชูอายี่ แต่งบอลซัดมุมแคบทันที ลุค แม็คกี พุ่งปัดได้ ก่อนตามเซฟเข้าซอง

น.32 เชลซี พลาดโอกาสบวกสกอร์เพิ่มอย่างน่าเจ็บใจ รูเบน ลอฟตัส-ชีค หลุดเข้าไปซัดในเขตโทษ ลุค แม็คกี ปัดออกมา ลอฟตัส-ชีค เก็บตกจังหวะสองแล้วไหลถวายพานให้ เปโดร โยกหลอกหาจังหวะยิงด้วยขวาแค่ 8 หลา แต่บอลชนโคนไปอย่างน่าตาเฉย

น.44 เชลซี สวนกลับเร็วขึ้นมา จนมาได้ประตูนำไปเป็น 2-0 บรานิสลาฟ อิวาโนวิช หลุดขึ้นมาทางฝั่งขวา แล้วเปิดโค้งข้ามไปเสาสองให้ รูเบน ลอฟตัส-ชีค เคาะจังหวะเดียวเข้าในมาให้ มิชี่ บาตชูอายี่ แต่งบอลกดด้วยขวาพุ่งเรียดเสียบมุม

หมดครึ่งแรก เชลซี นำ ปีเตอร์โบโร่ 2-0

ครึ่งหลัง

น.47 เชลซี มีโอกาสบวกสกอร์เพิ่มหลังเริ่มครึ่งหลังมาได้แค่นาทีเศษ มิชี่ บาตชูอายี่ ไหลบอลทะลุช่องเข้าเขตโทษด้านซ้ายให้ รูเบน ลอฟตัส-ชีค หลุดเดี่ยวเข้าไปเบี่ยงตัวแปด้วยขวาเน้นๆ บอลหลุดเสาไกลไปอย่างน่าเสียดาย

น.52 เชลซี เหนือกว่าทุกกระบวนท่า มาขยับสกอร์หนีไปเป็น 3-0 เชส ฟาเบรกาส วางบอลยาวออกด้านซ้ายให้ เปโดร ตามไปเก็บบอลได้แล้วไหลเข้ามาในมาให้ วิลเลี่ยน แต่งบอลโยกตัดเข้าในแล้วปั่นด้วยขวาเน้นๆ บอลโค้งหนีมือ ลุค แม็คกี เข้าไปเสียบเสาสอง

น.67 เชลซี ต้องมาเหลือผู้เล่น 10 คน เมื่อ จอห์น เทอร์รี่ ไปเจตนาพุ่งขวาง ลี แองโกลในจังหวะกำลังหลุดเดี่ยวเข้าไปยิง ก่อนที่ผู้ตัดสินจะควักใบแดงไล่ปราการหลังวัย 35 ปีออกทันที

น.68 ปีเตอร์โบโร่ ที่มาได้ฟรีคิกจากจังหวะก่อนหน้านี้ เยื้องเขตโทษมาทางฝั่งซ้ายเล็กน้อย พอล เทย์เลอร์ ปั่นด้วยขวาอ้อมกำแพง แต่ เบโกวิช ยังยืนตำแหน่งได้ดี รับเข้าซอง

น.70 ปีเตอร์โบโร่ มาฉวยโอกาสในระหว่างที่มีตัวผู้เล่นมากกว่า มายิงประตูตีไข่แตกไล่มาเป็น 1-3 ไมเคิ่ล สมิธ เปิดบอลจากฝั่งขวาเข้าเขตโทษ ลี แองโกล โฉบเข้ายิงที่เสาแรกแต่แปวืด บอลไหลเลยมาถึง ทอม นิโคลส์ ล้มตัวยิงที่เสาสองเปลี่ยนทางเข้าประตูไป

น.75 เชลซี ที่แม้เหลือผู้เล่น 10 คน แต่ยังมาทะลวงตาข่ายหนีไปเป็น 4-1 จนได้ เปโดร เคาะชิ่งจังหวะเดียวให้ มิชี่ บาตชูอายี่ ใช้ลำตัวบังเหลี่ยมบอล ก่อนไหลคืนมาให้ เปโดร บรรจงแปด้วยขวาเน้นๆ บริเวณหัวกะโหลก บอลโค้งเสียบมุมเป็นประตูที่ 2 ของเจ้าตัวในเกมนี้

จบเกม 90 นาที เชลซี เปิดบ้านเอาชนะ ปีเตอร์โบโร่ ไปขาดลอย 4-1 ผ่านเข้าสู่รอบ 4 ได้ตามความคาดหมาย

รายชื่อผู้เล่น เชลซี (3-4-3)
อัสเมียร์ เบโกวิช – เคิร์ต ซูม่า, จอห์น เทอร์รี่, แกรี่ เคฮิลล์ (โอล่า ไอน่า น.57) – บรานิสลาฟ อิวาโนวิช, เชส ฟาเบรกาส, นาธาเนียล ชาโลบาห์, รูเบน ลอฟตัส-ชีค (เซซาร์ อัซปิลิกวยต้า น.70) – เปโดร โรดริเกซ, มิชี่ บาตชูอายี่, วิลเลี่ยน (เอ็นโกโล่ ก็องเต้ น.73)
สำรองไม่ได้ใช้
เอดูอาร์โด้ – วิคเตอร์ โมเซส, เอแด็น อาซาร์, ดีเอโก้ คอสต้า

รายชื่อผู้เล่น ปีเตอร์โบโร่ (4-4-2)
ลุค แม็คกี – ไมเคิ่ล สมิธ, ไมเคิ่ล บอสต์วิค, ไรอัน ทาฟาโซลลี่, แอนดรูว์ ฮิวจ์ส (เยโรม บินนอม-วิลเลียมส์ น.83) – กวาน เอ็ดเวิร์ดส์ (มาร์ติน ซามูเอลสัน น.57), คริส ฟอร์เรสเตอร์, เลโอนาร์โด้ ดา ซิลวา, มาร์คัส แมดดิสัน (พอล เทย์เลอร์ น.58) – ทอม นิโคลส์, ลี แองโกล
สำรองไม่ได้ใช้
มาร์ค ไทเลอร์ – โอมินิค บอลล์, แบร็ด อินแมน, คัลลัม เชตเติ้ล