“หงษ์แดง” ลิเวอร์พูล เปิดสนามแอนฟิลด์ รับการมาเยือนของจ่าฟูงของพรีเมียร์ลีก “สิงโตน้ำเงิน” เชลซี ซึ่งเป็นการพบการเป็นนัดที่สองของฤดูกาล โดยในนัดนี้ลิเวอร์พูล โดนนำก่อนในช่วงครึ้งแรก จากลูกฟรีคริ๊กของ “ดาวิด ลุยซ์” ทำให้เชลซีขึ้นนำ 0-1 ในครึ้งหลัง “หงษ์แดง” เร่งเครื่องบุก จนสามารถตีเสมอได้จากการโหม่งของ “จอร์จินโญ่ ไวนัลจ์ดูม” หลังจากนั้นลิเวอร์พูลต้องเสียจุดโทษอีกครั้ง แต่ มิโญเลต์ สามารถพุ่งเซฟเอาไว้ได้จากการยิงจุดโทษของ “คอสต้า” ในนาทีที่ 77 จบเกมส์ผลเสมอ 1-1

โดยจากการแข่งขันในนัดแรกของซีซั่นนี้ ลิเวอร์พูล บุกชนะ 2-1

จังหวะสำคัญในเกมส์

ครึ่งแรก

น.12 ลิเวอร์พูล ได้โอกาสลุ้นจะแจ้งครั้งแรกเกือบเป็นประตู ฟิลิปเป้ คูตินโญ่ พาบอลลุยขึ้นหน้าแต่หาจังหวะยิงไม่ได้ ไหลออกมาด้านขวาให้ จอร์จินโญ่ ไวนัลจ์ดูม แต่งบอลซัดด้วยขวาเต็มข้อ ติโบต์ กูร์กตัวส์ บินซูเปอร์เซฟไว้ได้

น.20 เชลซี สวนกลับเร็วขึ้นมาน่ากลัว เอแด็น อาซาร์ กระชากบอลฉีกหนีตัวประกบขึ้นหน้า ก่อนป้ายออกด้านขวาให้ วิคเตอร์ โมเซส เติมขึ้นมาโล่งๆ แต่งบอลเข้าไปซัดด้วยขวา แต่ไปติดบล็อกกองหลังเจ้าถิ่น

น.25 เชลซี หนุนเกมบุกขึ้นสูง ก่อนจะมาได้ลูกฟรีคิกรยะทำการเยื้องเขตโทษมาทางซ้าย ผู้เล่นทีมเยือนขอกำแพงจากผู้ตัดสิน แล้วพยายามโจมตีเร็วในระหว่างที่ ซิมง มิโญเลต์ ตะโกนสั่งกำแพงยังไม่เรียบร้อยดี โดยที่เปา มาร์ค แคล็ทเทนเบิร์ก เป่าให้เล่นไปแล้ว ก่อนที่ ดาวิด ลุยซ์ จะฉวยโอกาสกดด้วยขวาเต็มแรง บอลพุ่งข้ามกำแพงฮุกเสียบมุมอย่างเด็ดขาด “สิงห์บลูส์” ขึ้นนำ 1-0

น.29 เชลซี สร้างโอกาสลุ้นหวาดเสียวจากลูกฟรีคิกได้อีกครั้ง ได้ลูกตั้งเตะระยะไกลทางหน้าเขตโทษด้านขวา วิลเลี่ยน ปั่นโค้งเข้าไปลุ้นในเขตโทษ บอลโค้งเข้าหาปากประตูไม่โดนใคร มิโญเลต์ ผวาปัดทิ้งออกหลัง

หมดครึ่งแรก เชลซี บุกมานำ ลิเวอร์พูล 1-0

ครึ่งหลัง

น.49 ลิเวอร์พูล เร่งเครื่องบุกเข้าใส่หลังสิ้นเสียงนกหวีดครึ่งหลัง มีโอกาสลุ้นเหน่งๆ เมื่อ ฟิลิปเป้ คูตินโญ่ กำลังแตะหลุดเข้าเขตโทษ โดน ดาวิด ลุยซ์ เข้ามาสไลด์ตัด แต่บอลกลายเป็นชงมาให้ โรแบร์โต้ ฟีร์มิโน่ วิ่งเข้ามาแปในเขตโทษคนเดียวโล่งๆ แต่ยิงไม่ดีโด่งข้ามคานไปเอง

น.51 เชลซี สวนขึ้นมาแต่ละครั้งก็ไม่เบา ดีเอโก้ คอสต้า ตอกส้นยัดเข้าเขตโทษทางด้านขวา เจมส์ มิลเนอร์ พยายามเตะสกัดโดน วิคเตอร์ โมเซส เข้ามาบล็อกตัดบอลได้ ก่อนได้ยิงด้วยซ้ายมุมแคบ บอลพุ่งเข้าขางตาข่าย

น.57 ลิเวอร์พูล ใช้ความพยายามอยู่ราว 10 กว่านาที สามารถตามทวงประตูตีเสมอ 1-1 ได้สำเร็จ จอร์แดน เฮนเดอร์สัน ตักบอลโด่งเข้าเขตโทษด้านซ้ายให้ เจมส์ มิลเนอร์ โหม่งชงยัดเข้าใน บอลแฉลบศีรษะ วิคเตอร์ โมเซส เล็กน้อย ก่อนที่ จอร์จินโญ่ ไวนัลจ์ดูม จะโถมเข้าโหม่งเต็มๆ ตรงกลางประตูเข้าไปไม่เหลือ

น.77 เชลซี เล่นด้วยลูกสวนกลับเป็นหลัก ดีเอโก้ คอสต้า พาบอลลุยจากกลางสนามเข้าเขตโทษ ก่อนโยกตัดเข้าในแล้วโดน โจเอล มาติ๊ป หวดข้อเท้าจนล้มคว่ำ ผู้ตัดสินเป่าเป็นจุดโทษทันที คอสต้า ลุกขึ้นมาสังหารเอง อัดด้วยขวาเต็มแรงแต่โดน มิโญเลต์ พุ่งดักทางเซฟเอาไว้ได้

น.90 เชลซี หวิดได้ประตูชัยในนาทีสุดท้าย เอ็นโกโล่ ก็องเต้ ตัดบอลได้ทางด้านซ้ายแล้วจ่ายขวางมาหน้าเขตโทษให้ เปโดร ตวัดยิงด้วยซ้ายเต็มข้อ บอลพุ่งถากเสาไกลไปนิดเดียว

น.90+1 ลิเวอร์พูล ได้โอกาสทองที่จะได้ประตูชัย ในช่วงทดเวลาบาดเจ็บ ซาดิโอ มาเน่ ตักบอลโด่งจากทางด้านขวาโค้งเข้าเขตโทษให้ โรแบร์โต้ ฟีร์มิโน่ ได้โหม่งคนเดียวเต็มๆ แค่ 7 หลา แต่บอลไปตรงตัว กูร์กตัวส์ อย่างน่าเสียดาย

จบเกม ลิเวอร์พูล เปิดบ้านเสมอกับ เชลซี ไปด้วยสกอร์ 1-1 แบ่งไปทีมละ 1 คะแนน ทำให้ “สิงห์บลูส์” มีเพิ่มเป็น 56 คะแนน หนีอันดับ 2 อย่าง สเปอร์ส ออกไปเป็น 9 คะแนน ขณะที่ “หงส์แดง” มีเพิ่มเป็น 46 คะแนน ยังคงอยู่อันดับ 4 เท่าเดิม

รายชื่อผู้เล่น ลิเวอร์พูล (4-3-3)
ซิมง มิโญเลต์ – นาธาเนียล ไคลน์, เดยัน ลอฟเรน, โจเอล มาติ๊ป, เจมส์ มิลเนอร์ – เอ็มเร่ ชาน, จอร์แดน เฮนเดอร์สัน, จอร์จินโญ่ ไวนัลจ์ดูม – อดัม ลัลลาน่า (ดิว็อก โอริกี้ น.90), โรแบร์โต้ ฟีร์มิโน่, ฟิลิปเป้ คูตินโญ่ (ซาดิโอ มาเน่ น.75)
สำรองไม่ได้ใช้
ลอริส คาริอุส – รักนาร์ คลาวาน, อัลแบร์โต้ โมเรโน่, ลูคัส เลว่า, แดเนียล สเตอร์ริดจ์

รายชื่อผู้เล่น เชลซี (3-4-3)
ติโบต์ กูร์กตัวส์ – เซซาร์ อัซปิลิกวยต้า, ดาวิด ลุยซ์, แกรี่ เคฮิลล์ – วิคเตอร์ โมเซส, เอ็นโกโล่ ก็องเต้, เนมานย่า มาติช, มาร์กอส อลอนโซ่ – วิลเลี่ยน (เชส ฟาเบรกาส น.83), ดีเอโก้ คอสต้า (มิชี่ บาตชูอายี่ น.90+4), เอแด็น อาซาร์ (เปโดร โรดริเกซ น.82)
สำรองไม่ได้ใช้
อัสเมียร์ เบโกวิช – จอห์น เทอร์รี่, เคิร์ต ซูม่า, นาธาเนียล ชาโลบาห์