ManchesterCity-Liverpool

“กุน ฮีโร่” ไล่ตีเสมอ “หงษ์แดง” แบ่งแต้มเอติฮัด สเตเดี้ยม 1-1

ManchesterCity-vs-Liverpool

“เรือใบสีฟ้า” แมนเชสเตอร์ ซิตี้ เปิดบ้านรับการมาเยือนของ “หงษ์แดง” ลิเวอร์พูล แบ่งแต้มจากสนาม เอติฮัด สเตเดี้ยม กันไป 1-1 หลังจากลิเวอร์พูลเป็นฝ่ายขึ้นนำก่อนจากการยิงจุดโทษของ “เจมส์ มิลเนอร์” ในนาที 51 จากนั้นไม่นานในนาทีที่ 69 “เรือใบ” ไล่ตีเสมอ 1-1 จากการยิงของ “กุน อเกวโร่” จบเกมส์อันดับของ ลิวเรอืพูลและแมนฯซิตี้ รั้งกลุ่มจ่าฟูงเช่นเดิม

ฟุตบอล พรีเมียร์ลีก อังกฤษ ฤดูกาล 2016-17 แข่งขันวันอาทิตย์ที่ 19 มีนาคม 2560 เป็นการพบกันระหว่าง “เรือใบสีฟ้า” แมนเชสเตอร์ ซิตี้ ก่อนลงสนามอยู่อันดับ 3 ของตาราง มีอยู่ 56 คะแนน เปิดสนาม เอติฮัด สเตเดี้ยม รับการมาเยือนของ “หงส์แดง” ลิเวอร์พูล ทีมอันดับ 4 ของตาราง มีอยู่ 55 คะแนน โดยการพบกันครั้งแรกในซีซั่นนี้ ลิเวอร์พูล เฉือนชนะ 1-0

ครึ่งแรก

น.12 แมนฯ ซิตี้ ได้โอกาสยิงเข้ากรอบครั้งแรก เมื่อ ดาบิด ซิลบา จิ้มบอลออกด้านซ้ายให้ เควิน เดอ บรอยน์ พยายามเปิดยัดเข้าใน แต่บอลกลายเป็นพุ่งเข้าเสาแรก ยังดีที่ ซิมง มิโญเลต์ ถอยมาปัดทิ้งไปได้ทัน

น.20 แมนฯ ซิตี้ วูบวาบน่ากลัวในแดนน่า มีโอกาสลุ้นประตูออกนำ เลรอย ซาเน่ ได้บอลหลุดเข้าเขตโทษด้านซ้ายแล้วเปิดยัดเข้าใน มิโญเลต์ ใช้เท้าสกัดบอลออกมาเข้าทางปืน ดาบิด ซิลบา วัดด้วยซ้ายข้างถนัด แต่บอลติดไซด์ก้อยหลุดกรอบ

น.24 ลิเวอร์พูล ได้ตอบโต้ขึ้นมาบ้าง ได้ลุ้นใกล้เคียงเมื่อ ซาดิโอ มาเน่ ใช้ความเร็วพาบอลสปีดหนี นิโคลัส โอตาเมนดี้ หลุดเข้าเขตโทษ จังหวะกำลังง้างยิงโดน โอตาเมนดี้ เข้ามาแซะจากด้านหลังทำให้ยิงเบาเข้ามือ กาบาเยโร่ พยายามประท้วงเอาจุดโทษกับผู้ตัดสินก็ไม่เป็นผล

น.35 ลิเวอร์พูล ขยับทำเกมบุกขึ้นมาได้มากขึ้น มีโอกาสลุ้นเหน่งๆ เมื่อ จอร์จินโญ่ ไวนัลจ์ดุม ไหลบอลเข้าเขตโทษด้านซ้ายให้ ฟิลิปเป้ คูตินโญ่ แต่งบอลหนีตัวประกบตัดเข้าใน แล้วปั่นด้วยขวา แต่บอลโค้งข้ามคาน

น.39 แมนฯ ซิตี้ น่าได้ประตูออกนำเป็นอย่างยิ่ง เควิน เดอ บรอยน์ ไหลทะลุช่องเข้าเขตโทษด้านซ้ายให้ ดาบิด ซิลบา เปิดเรียดยัดเข้ากลางให้ ราฮีม สเตอร์ลิง พุ่งเข้ายิงแต่วึดไป ก่อนที่บอลจะมาถึง แฟร์นานดินโญ่ ล้มตัวสไลด์ยิงที่เสาสอง แต่บอลหลุดกรอบ

น.40 ลิเวอร์พูล กลับมาบุกลุยได้มากขึ้น มีโอกาสลุ้นใกล้เคียง โรแบร์โต้ ฟีร์มิโน่ ได้บอลหลุดขึ้นทางด้านซ้าย แล้วลากตัดเข้ามาปั่นด้วยขวา บอลโค้งเข้าไปทางเสาสอง กาบาเยโร่ บินปัดทิ้งออกไป

น.41 ลิเวอร์พูล สร้างโอกาสลุ้นประตูได้อย่างต่อเนื่อง บอลจากลูกเตะมุม กาบาเยโร่ ทุบออกมาเข้าทาง อดัม ลัลลาน่า แต่งบอลหนึ่งจังหวะแล้ววอลเลย์ด้วยซ้าย ทำให้ กาบาเยโร่ ต้องออกแรงเซฟอีกครั้ง

หมดครึ่งแรก แมนฯ ซิตี้ กับ ลิเวอร์พูล ยังเสมอกันอยู่ 0-0

ครึ่งหลัง

น.47 ลิเวอร์พูล ขึ้นเกมรุกเข้ามากดดันก่อนในครึ่งหลัง มีโอกาสลุ้นหวาดเสียว อดัม ลัลลาน่า ตวัดบอลจากด้านขวาเข้าในให้ ซาดิโอ มาเน่ ง้างเท้าแปด้วยขวาเน้ๆ แต่ไปติดบล็อก จอห์น สโตนส์ ข้ามคาน

น.51 ลิเวอร์พูล ทำได้ดีกว่าหลังเปิดฉากครึ่งหลังเป็นต้นมา จนกระทั่งมาได้จุดโทษในจังหวะที่ โรแบร์โต้ ฟีร์มิโน่ พักอกดูดบอลลงในเขตโทษแล้วโดน กาแอล กลิชี่ กระโดดพุ่งเข้ามาเตะทั้งบอลทั้งคน ผู้ตัดสินชี้เป็นจุดโทษทันที ก่อนที่ เจมส์ มิลเนอร์ จะสังหารเข้าไปเสียบมุมให้ “หงส์แดง” ขึ้นนำ 1-0

น.56 แมนฯ ซิตี้ ต้องขยับหนุนเกมรุกขึ้มาเอาคืนบ้าง มีโอกาสลุ้นใกล้เคียงจากลูกเตะมุมทางด้านขวา ดาบิด ซิลบา เปิดโค้งเข้ามาให้ จอห์น สโตนส์ ลอยตัวขึ้นมาโหม่งเต็มๆ แต่บลหลุดเสาไปอย่างน่าเสียดาย

น.61 ลิเวอร์พูล เกือบที่จะบวกประตูที่สองเพิ่มได้ ฟิลิปเป้ คูตินโญ่ ตวัดบอลทะลุช่องเข้าเขตโทษด้านซ้ายให้ โรแบร์โต้ ฟีร์มิโน่ หลุดเดี่ยวเข้าไปดวลกับ กายาเยโร่ แต่จังหวะยิงไปติดบล็อกนายด่านอาร์เจนไตน์พุ่งตัวมาขวางได้ทัน

น.69 แมนฯ ซิตี้ หลังโดนทีมเยือนบุกมาลูบคม พยายามขึงเกมบุกอยู่นาน ก่อนจะมาตามทวงประตูคืนได้สำเร็จ เควิน เดอ บรอยน์ สบช่องเปิดบอลเรียดจากฝั่งขวาเข้าเขตโทษให้ เซร์คิโอ อเกวโร่ “กุน” โฉบเข้าแปบอลจ่อๆ เปลี่ยนทางเข้าประตูไปให้ “เรือใบ” ตามตีเสมอ 1-1

น.76 แมนฯ ซิตี้ มีโอกาสงามๆ ที่จะได้ประตูพลิกออกนำ เลรอย ซาเน่ หลุดเข้าเขตโทษด้านซ้ายแล้วตอกส้นย้อนคืนมาให้ กุน อเกวโร่ เสียหลักลื่นล้มไปแล้ว แต่ยังจิ้มบอลต่อมาให้ เควิน เดอ บรอยน์ ตวัดยิงด้วยซ้ายที่เสาสอง แต่บอลไปชนเสาเต็มๆ

น.80 ลิเวอร์พูล พลาดโอกาสทองฝังเพชรที่จะได้ประตูนำอีกครั้ง จอร์จินโญ่ ไวนัลจ์ดุม ชิพบอลโด่งเข้าเขตโทษให้ โรแบร์โต้ ฟีร์มิโน่ ดีดเข้าในมาให้ อดัม ลัลลาน่า ยืนอยู่คนเดียวโล่งๆ แต่กลับแปวึดไปอย่างน่าเขกกะโหลก

จบเกม 90 นาที แมนเชสเตอร์ ซิตี้ เปิดบ้านเสมอกับ ลิเวอร์พูล ด้วยสกอร์ 1-1 แบ่งไปทีมละ 1 คะแนน ทำให้อันดับตารางคะแนนไม่ขยับ โดย “เรือใบ” แข่ง 28 นัด มีเพิ่มเป็น 57 คะแนน ยังอยู่อันดับ 3 ขณะที่ “หงส์แดง” แข่งไปแล้ว 29 นัด มีเพิ่มเป็น 56 คะแนน อยู่อันดับ 4 เท่าเดิม

รายชื่อผู้เล่น แมนเชสเตอร์ ซิตี้ (4-1-4-1)
วิลลี่ กาบาเยโร่ – แฟร์นานดินโญ่, จอห์น สโตนส์, นิโคลัส โอตาเมนดี้, กาแอล กลิชี่ – ยาย่า ตูเร่ (บาการี่ ซาญ่า น.65) – ราฮีม สเตอร์ลิง, เควิน เดอ บรอยน์, ดาบิด ซิลบา, เลรอย ซาเน่ (โนลิโต้ น.83) – เซร์คิโอ อเกวโร่
สำรองไม่ได้ใช้
เคลาดิโอ บราโว่ – อเล็กซานดาร์ โคลารอฟ, แฟร์นานโด, อเล็กซ์ การ์เซีย, เคเลชี่ อีเฮียนาโช่

รายชื่อผู้เล่น ลิเวอร์พูล (4-3-3)
ซิมง มิโญเลต์ – นาธาเนียล ไคลน์, โจเอล มาติ๊ป, รักนาร์ คลาวาน, เจมส์ มิลเนอร์ – จอร์จินโญ่ ไวนัลจ์ดุม, เอ็มเร่ ชาน, อดัม ลัลลาน่า – ซาดิโอ มาเน่, โรแบร์โต้ ฟีร์มิโน่ (ลูคัส เลว่า น.89), ฟิลิปเป้ คูตินโญ่ (ดิว็อก โอริกี้ น.73)
สำรองไม่ได้ใช้
ลอริส คาริอุส – เดยัน ลอฟเรน, อัลแบร์โต้ โมเรโน่, เทรนท์ อเล็กซานเดอร์-อาร์โนลด์, เบน วู้ดเบิร์น

แหล่งที่มา : http://taloomball.com/เรือไล่เจ๊าหงส์1-1/

error: Copyright 2015 by M8-online.com