“จิ้งจอกสยาม” พ่ายแชมป์เปี้ยนส์ ลีก นัดแรกของฤดูกาล ให้กับทีม เซบีย่า ด้วยสกอร์ 2-1 ในการเปิดบ้านรับการมาเยือนของ เลสเตอร์ ซิตี้ ที่สนามราม่อน ซานเชซ ปิซฆวน ในสเปน ซึ่งเป็นการพบกันในรอบ 16 ทีมสุดท้ายของฟุตบอล ยูฟ่า แชมเปี้ยนส์ ลีก ฤดูกาล 2016-17 แต่เลสเตอร์ฯ ยังมีลุ้นอีกนัดในบ้านแถมยังสามารถเก็บอเวย์โกลด์กลับบ้านได้ 1 ลูก ซึ่งอาจจะเป็นนัดสำคัญสำหรับทีม หลังจากทำผลงานได้ไม่ดีนักกับอันดับในตารางของบอลในพรีเมียร์ ลีก อังกฤษ

จังหวะสำคัญในเกมส์

ครึ่งแรก

น.3 เซบีย่า ได้ทักทายก่อนตั้งแต่ต้เกม บิโตโล่ ถ่ายบอลออกด้านขวาให้ ปาโบล ซาราเบีย กระชากบอลหนีตัวประกบตัดเข้าใน ก่อนลองปั่นด้วยซ้ายข้างถนัด บอลโค้งย้อยตกหลังคาน

น.14 เซบีย่า บีบเกมสูงเข้ากดดันแนวรับทีมเยือนให้ทำงานหนัก จนกระทั่งมาได้จุดโทษเมื่อ เวส มอร์แกน เข้าบอลโฉ่งฉ่างพุ่งเข้าเสียบ ฆัวกิน กอเรอา ล้มหงายเก๋ง ก่อนที่ กอเรอา จะรับอาสาสังหารเอง แต่โดน แคสเปอร์ ชไมเคิ่ล พุ่งดักทางเซฟไว้ได้ พลาดโอกาสได้ประตูนำ

น.22 เซบีย่า บุกเข้ากดดันได้ดี มีโอกาสลุ้นอีกครั้ง ปาโบล ซาราเบีย ได้บอลหลุดขึ้นทางด้านขวาแล้วจ่ายหักข้อมาหน้าเขตโทษให้ เซร์คิโอ เอสกูเดโร่ กดด้วยซ้าย แคสเปอร์ ชไมเคิ่ล ต้องออกแรงพุ่งปัดทิ้ง

น.25 เซบีย่า ที่เหนือกว่ามาตลอดตั้งแต่เริมเกม มาได้ประตูขึ้นนำ 1-0 จนได้ จากจังหวะที่ เซร์คิโอ เอสกูเดโร่ เปิดบอลจากฝั่งซ้ายโค้งเข้าเขตโทษ บอลเลยมาถึง ปาโบล ซาราเบีย สอดมาโหม่งเต็มศีรษะที่เสาสอง บอลย้อนทางเช็ดโคนเสาเข้าไป แคสเปอร์ ชไมเคิ่ล แทบไม่ได้ขยับตัว

น.37 เซบีย่า เดินหน้าลุยต่อ บิโตโล่ พาบอลแหวกผ่านผู้เล่นทีมเยือนจากด้านซ้ายตัดเข้าใน แล้วไหลย้อนคืนมาให้ ฆัวกิน กอเรอา แต่งบอลซัดด้วยขวาระยะ 23 หลา แคสเปอร์ ชไมเคิ่ล ต้องออกแรงปัดทิ้ง

น.45+1 เซบีย่า แทบจะหาโอกาสลุ้นอยู่ฝั่งเดียว มีลุ้นทิ้งท้ายครึ่งแรก มาเรียโน่ เปิดบอลจากสุดเส้นหลังด้านขวาเข้าเขตโทษมาให้ บิโตโล่ เทกตัวขึ้นโขก แต่บอลโด่งข้ามคาน

หมดครึ่งแรก เซบีย่า นำ เลสเตอร์ 1-0

ครึ่งหลัง

น.50 เลสเตอร์ ได้โอกาสยิงเข้ากรอบครั้งแรกในเกมนี้ เจมี่ วาร์ดี้ เอี้ยวตัวเตะโด่งขึ้นหน้า บอลย้อยมาเข้าทาง อาห์เหม็ด มูซ่า วอลเลย์ด้วยขวาจากระยะ 23 หลา บอลพุ่งเข้าไปตรงตัว เซร์คิโอ ริโก้ ได้เซฟครั้งแรก

น.50 เซบีย่า สวนขึ้นมาทันควัน หวิดได้ประตูเพิ่ม ซามีร์ นาสรี่ ไหลบอลทะลุช่องเข้าเขตโทษให้ บิโตโล่ หลุดกัปตักล้ำหน้าเข้าไปเก็บบอล ก่อนหาเหลี่ยมแปยัดมุมแคบ บอลกระแทกเสาแรก หลุดผ่านหน้าปากประตู

น.56 เซบีย่า หาโอกาสลุ้นได้อีกครั้ง เมื่อ เวส มอร์แกน โหม่งสกัดไม่ดี บอลลอยมาเข้าทาง ปาโบล ซาราเบีย เก็บบอลในเขตโทษด้านขวา ก่อนแต่งบอลหลอกยิงยัดเสาแรก แต่บอลหลุดกรอบ

น.60 เลสเตอร์ ยกระดับเกมขึ้นมาต่อกรกับเจ้าถิ่นได้ดีขึ้น มีโอกาสลุ้นหวาดเสียว เดมาไร เกรย์ ตามไปแย่งบอลแดนกลางมาให้ แดนนี่ ดริ๊งค์วอเตอร์ แต่งบอลซัดด้วยซ้ายหน้าเขตโทษ บอลแฉลบบล็อกหลุดกรอบนิดเดียว

น.62 เซบีย่า สร้างความแตกต่างในพื้นที่สุดท้ายได้อย่างชัดเจน จนมาบวกประตูเพิ่มนำเป็น 2-0 สเตฟาน โยเวติช เก็บบอลพักบอลแดนหน้า ดึงตัวประกบมาถึง 2 คน ก่อนดีดออกมาด้านซ้ายให้ ฆัวกิน กอเรอา สอดเข้ามาแปโล่งๆ สวนตัว แคสเปอร์ ชไมเคิ่ล เข้าไป แก้ตัวจากที่ยิงจุดโทษไม่เข้าได้สำเร็จ

น.73 เลสเตอร์ ไม่ยอมแพ้ง่ายๆ มายิงประตูอเวย์โกลไล่หลังมาเป็น 1-2 คริสเตียน ฟุคส์ ทำชิ่งออกด้านซ้ายให้ แดนนี่ ดริ๊งค์วอเตอร์ หลุดขึ้นมาคนเดียว ก่อนเปิดเรียดยัดเข้าเขตโมษมาให้ เจมี่ วาร์ดี้ สอดเข้ามาแปคนเดียวโล่งๆ ที่เสาสอง บอลเข้าไปซุกก้นตาข่ายไม่เหลือซาก

น.88 เซบีย่า มีโอกาสลุ้นประตูเพิ่มในช่วงท้ายเกม จากลูกเตะมุมทางด้านซ้าย ซามีร์ นาสรี่ เปิดโค้งเข้ามาลุ้นในเขตโทษ อาดิล รามี่ ทะยานลอยตัวขึ้นโขกเต็มๆ บอลเปลี่ยนทางไปชนคานอย่างจัง

จบเกม 90 นาที เซบีย่า เปิดบ้านเฉือนเอาชนะ เลสเตอร์ ซิตี้ ด้วยสกอร์ 2-1 โดยเกมเลก 2 จะย้ามาเตะที่สนาม คิง พาวเวอร์ สเตเดี้ยม รังเหย้าของ “จิ้งจอกสยาม” ที่ได้อเวย์โกลกลับมา 1 ลูก ในวันอังคารที่ 14 มีนาคม นี้

รายชื่อผู้เล่น เซบีย่า (4-1-3-2)
เซร์คิโอ ริโก้ – มาเรียโน่, อาดิล รามี่, เกลม็องต์ ล็องเลต์ (ดาเนียล การ์ริโช่ น.55), เซร์คิโอ เอสกูเดโร่ – สตีเว่น เอ็นซ็อนซี่ – ปาโบล ซาราเบีย, บิโตโล่, ซามีร์ นาสรี่ – สเตฟาน โยเวติช, ฆัวกิน กอเรอา (บิเซนเต้ อิบอร์ร่า น.63)
สำรองไม่ได้ใช้
ดาบิด โซเรีย – มาธีอัส คราเนวิตเตร์, วิดแซม เบน เย็ดแดร์, ฟรังโก้ วาซเกซ, ลูเชียโน่ เวียตโต้

รายชื่อผู้เล่น เลสเตอร์ ซิตี้ (4-4-1-1)
แคสเปอร์ ชไมเคิ่ล – แดนนี่ ซิมพ์สัน, เวส มอร์แกน, โรเบิร์ต ฮูธ, คริสเตียน ฟุคส์ – มาร์ค อัลไบรท์ตัน (ดาเนี่ยล อมาร์เตย์ น.88), แดนนี่ ดริ๊งค์วอเตอร์, วิลเฟร็ด เอ็นดิดี้, อาห์เหม็ด มูซ่า (เดมาไร เกรย์ น.58) – ริยาด มาห์เรซ – เจมี่ วาร์ดี้
สำรองไม่ได้ใช้
รอน-โรเบิร์ต ซีเลอร์ – โยฮัน เบนาลูยาน, เบน ชิลเวลล์, แอนดี้ คิง, ชินจิ โอกาซากิ